ธุรกิจเครือข่าย คือ อาชีพเสริมสร้างรายได้ที่หลายๆคนเกลียดจริงหรือ

90% ของคนทำงานมีเงินเดือนต้องการมีอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวกันทั้งนั้น...แต่รายได้เสริมที่หลายๆคนเกลียด นั้นก็คือธุรกิจเครือข่าย คุณว่าจริงไหม??…แต่ถ้าคุณอ่านบทความนี้จนจบ…คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณคิดผิดก็ได้ …เพราะคุณอาจจะไม่ได้เกลียดธุรกิจเครือข่ายเหมือนที่หลายๆคนเข้าใจกัน

หลายๆคนได้ยินคำว่าธุรกิจเครือข่ายร้อง “ยี้” เลย ไม่อยากทำ..ไม่ต้องมาชวน ไม่ต้องมายุ่ง...เอาล่ะ...คุณลองฟังสิ่งที่แยมจะพูดสักนิดนะว่าที่คุณร้อง “ยี้” เนี๊ยะ...ถามจริงๆนะว่าคุณเกลียดธุรกิจเครือข่ายจริงๆ หรือ คุณเกลียดวิธีการสร้างธุรกิจเครือข่ายกันแน่...แยมขออธิบายเพิ่มเติมให้ฟังนะเผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนทัศนคติว่าจริงๆแล้ว คุณไม่ได้เกลียดธุรกิจเครือข่าย...แต่คุณอาจจะเกลียดวิธีการสร้างธุรกิจเครือข่ายต่างหาก

ซึ่ง แต่ไหนแต่ไรมา...ที่เราถูกชักชวนให้เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย...เราก็ถูกสอน ถูกฝึกฝนให้ชวนคน ชวนคน และก็ชวนคน...โดยไม่ได้ดูอะไรเลย...ขอให้เป็นคนเถอะชวนหมด..ไม่ว่าจะเป็น ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย คนรู้จัก เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนแท้บ้างไม่แท้บ้าง...หน้าที่ของเราที่ถูกสอนมาคืออะไร...หลอกล่อยังไงก็ได้ให้เข้าห้องประชุมกับเรา เขียนวงกลมๆ พูดเรื่องรายได้เยอะๆ จนเพื่อนเราเริ่มงงๆ และในที่สุดก็ถูกจับมัดมือเซ็นชื่อสมัครทำธุรกิจ...รู้ตัวอีกทีก็หลังจากตื่นจากความฝันนั่นแหละ…และสิ่งนี้ก็ทำให้แยมพบว่าการทำธุรกิจเครือข่ายที่เพื่อนมันชวนเราไม่เห็นมันจะง่ายเหมือนอย่างที่มันบอกเลย

คุณเคยรู้สึกไหมว่าทำไมหลายๆ ครั้งที่เราออกไปชวน ไปเขียนแผน เอาความหวังดีไปให้ใครต่อใคร แต่กลับโดนปฏิเสธ ถ้าเป็นเพื่อนกันก็จะถูกปฏิเสธแบบสุภาพได้รับการถนอมน้ำใจหน่อย โดยเพื่อนอาจจะบอกว่า ไม่ค่อยว่าง ไม่มีเวลา แต่ถ้าไม่ค่อยรู้จักกันก็จะปฏิเสธแบบรุนแรงขึ้นเพื่อให้เราไปให้พ้นๆ ไปให้ไกลๆเขา…คุณว่ามันคุ้นๆไหม( แยมเคยมาแล้ว...เจอบ่อยจนไม่อยากจะเจออีก...) ทั้งๆที่เราก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็โดนปฏิเสธจนท้อและก็เลิกไปในที่สุด ทำให้ธุรกิจเครือข่ายกลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวสำหรับใครหลายๆ คน คุณว่าจริงไหมล่ะ???

เห็นไหมว่าสิ่งที่คุณเกลียด คือวิธีการสร้างธุรกิจเครือข่ายที่ถูกสอนกันมา จนทำให้หลายๆ คนเกลียดสิ่งนี้ และทำให้หลายๆ คนที่ไม่เคยรู้จักธุรกิจนี้ มีอาการกลัวไปตามๆกัน ว่าถ้าทำแล้วจะต้องไปชวนคน ไปขายสินค้า ไปเขียนแผนอะไรต่อมิอะไรที่ทำให้เขาปฏิเสธ...ถ้ามีคนมาชวนแยมแล้วแยมจะต้องไปชวน คนอื่นๆอีกไปสาธิตสินค้า ไปเขียนแผนอีก แยมก็คงไม่ทำแล้ว...เพราะแยมเองก็กลัวและเข็ดกับวิธีการสร้างธุรกิจเครือข่าย แบบนี้เหมือนกัน...เพราะทำไปก็ไม่ได้อะไร แถมยังจะเสียมิตรภาพที่ดีๆอีกด้วย

แต่ถามจริงๆเถอะว่า...ไอ้...สิ่งที่คุณเกลียด คือ ธุรกิจเครือข่ายหรือวิธีการทำธุรกิจเครือข่าย...

งั้นคุณฟังสิ่งที่แยมจะพูดซักหน่อยนะ...ถ้าคุณยังยืนยันว่าสิ่งที่คุณเกลียดคือธุรกิจเครือข่าย...ไม่ใช่วิธีการทำธุรกิจเครือข่าย แยมก็ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนทัศนคติของคุณ คือ ถ้าคุณทำธุรกิจเครือข่ายโดยที่คุณไม่ต้องชวนใคร ไม่ต้องกลัวเสียเพื่อน ไม่ต้องกลัวโดนปฏิเสธ ไม่ต้องกลัวเจ็บปวด ไม่ต้องไปวิ่งไล่ล่าใคร ไม่ต้องไปสาธิตสินค้า ไม่ต้องไปเขียนแผน ไม่ต้องไปขอร้องให้เขาสมัคร...คุณว่าถ้าทำธุรกิจเครือข่ายด้วยวิธีนี้มันน่าทำไหม และถ้าคุณยังยืนว่าคุณเกลียดธุรกิจเครือข่าย ไม่ได้เกลียดวิธีการสร้างเครือข่ายแบบเก่า คุณก็เลิกอ่านเถอะ เพราะแยมเปลี่ยนใจใครไม่ได้หรอก...แต่ถ้าคุณเริ่มมองว่า อืม...จริงๆ แล้วสิ่งที่ฉันเกลียดไม่ใช่ธุรกิจเครือข่ายนะ...แต่ฉันเกลียดวิธีการสร้าง ธุรกิจเครือข่าย...คุณก็ศึกษาต่อในบล็อกที่แยมเขียนได้ว่าทำยังไง...เพราะคุณ รู้แล้วใช่ไหม...ว่าชีวิตคุณต้องทำอะไรเพิ่ม...และธุรกิจเครือข่ายก็ไม่ใช่ สิ่งที่คุณเกลียด แล้วอะไรล่ะที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย...คำตอบก็คือ

สิ่งแรกเลยก็คือ…ตัวคุณนั่นแหละ…ที่จะเป็นคนกำหนดความสำเร็จ...โดยเริ่มจาก ทัศนคติที่ดี...หลังจากที่คุณได้ศึกษาในบล็อคแล้วแยมก็เชื่อว่าทัศนคติ ของคุณต้องเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน...แต่มีคนเคยบอกว่า ทัศนคติ ที่ดีมักจะอยู่กับใครไม่ได้นานๆ...ไม่เชื่อคุณลองไปอยู่ใกล้ใครที่เกลียด ธุรกิจเครือข่ายดูซิ...คุณจะมีทัศนคติไปตามเขาทันทีเลย...ทั้งๆที่คุณก็รู้ ความจริงแล้วว่าธุรกิจนี้และวิธีการแบบนี้เป็นยังไง...ถ้าตอนนี้คุณยังมี ทัศนคติที่ดีอยู่ก็เริ่มลงมือทำอะไรเพื่อเปลี่ยนชีวิตคุณซะเถอะ...ก่อนที่ทัศนคติที่ดีจะจากไป...

แต่สำหรับแยมนะ...ด้วยวิธีการทำการตลาดธุรกิจเครือข่ายแบบนี้ ทัศนคติที่ดีจะอยู่กับแยมตลอดเวลา...เพราะแยมไม่เคยต้องไปเอาชนะคนที่มีทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย...ไม่เคยต้องไปง้อหรือไปเปลี่ยนทัศนคติไม่ดีของใคร...เพราะด้วยระบบการคัดกรองคนที่ใช่...และคนที่ต้องการอาชีพเสริมสร้างรายได้เท่านั้น...และด้วยวิธีการตลาดดึงดูดที่เราจะได้คนที่มีทัศนคติที่ดีและระบบ V Global Group  ก็จะกรองคนที่ตั้งใจเรียนรู้ ตั้งใจ ทำ...แล้วแยมต้องมานั่งเหนื่อยใจกับคนที่เขาตั้งใจเรียนรู้...ตั้งใจทำ หรือ...แยมก็แค่มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ...และถ้าคุณเป็น คนที่ต้องการเปลี่ยน...โดยการเริ่มทำอะไรเพิ่ม..เพื่อให้ชีวิตคุณดี ขึ้น...แยมก็ยินดีและคุณจะไม่ต้องเหนื่อยกับการไล่ล่าใครด้วยวิธีการของแยม... และระบบการทำงานแทนเรา 24 ชม....แต่ทำไมต้องใช้ระบบล่ะ

อย่างที่บอก...เราไม่ทำธุรกิจประเภทไล่ล่า...ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีระบบที่สามารถทำงานแทนเราได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใจผู้มุ่งหวังที่เขาสนใจ การให้ความรู้ต่างๆ การพัฒนาศักยภาพของเราและอื่นๆอีกหลายๆอย่างที่เราใช้ทำงานแทนเรา...ยกตัวอย่างถ้าคุณพูดไม่เก่ง ชักแม่น้ำทั้ง 5 ไม่เป็น สมองไม่ไว ลิ้นไม่ทำงาน คุณจะชวนยังไง...นี่ไงเราใช้ระบบทำแทน...คุณก็ไม่ต้องมานั่งพูด ไม่ต้องมาชักแม่น้ำทั้งห้าไง...และถ้าคุณไม่เก่ง สมองไม่ไว คุณ จะสอนงานลูกทีมคุณยังไง...นี่ไงเราใช้ระบบทำแทน...และอีกหลายๆอย่างที่เรา ใช้ระบบทำแทน...ถ้าคุณรู้ว่าต้องทำอะไรเพิ่มให้กับชีวิต...และคุณเลือก ธุรกิจเครือข่ายเพราะคุณไม่ได้เกลียดมัน...งั้นไปดูเหตุผลว่าทำไมเราต้องมี ระบบนอกจากที่แยมยกตัวอย่างไป(ซึ่งจริงๆเหตุผลที่ยกไปข้างต้นนั้นไม่ใช่ เหตุผลหลักเลยนะ...แต่มันก็พอจะทำให้ใครหลายๆคนอยากทำธุรกิจเครือข่าย โดยใช้ระบบ...)

เพื่อ ทำให้เราไม่ใช่สาเหตุของรายได้นั่นเอง...นี่คือเหตุผลหลักของการใช้ระบบ... หลายๆคนอาจจะงง...ยกตัวอย่าง...ถ้าแยมทำให้ตัวเองเป็นสาเหตุของรายได้...แยมไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งกับครอบครัว...หรือไปกับเพื่อน...รายได้ของแยมจะหยุดไป ด้วยจริงไหม...เพราะไม่ได้ทำงานเพราะงานมาจากสิ่งที่แยมทำ...นั้นก็คือแยมเป็นสาเหตุของรายได้ ถ้าไม่มำงานก็ไม่มีรายได้...ดังนั่นถ้าเราใช้ระบบ เวลาเราไปเที่ยว...แต่ระบบทำงานให้เรา รายได้ก็ยังเกิดจริงไหมเพราะระบบไม่ได้ไปเที่ยวด้วย...นั่นคือการเซ็ตให้ระบบทำงานแทนเรา...เพื่อทำให้เราไม่ใช่สาเหตุของรายได้ ใน ขณะที่คุณกำลังเข้ามาเรียนรู้หรือเข้ามาอ่านบทความ...แยมอาจจะไม่ได้นั่งอยู่ หน้าจอ...แต่อาจจะกำลังนั่งตกปลา...เที่ยวน้ำตก...หรือกำลังพักผ่อนอยู่ก็ได้...เห็นไหมว่าระบบมันก็ยังคงทำงานของมันเรื่อยๆ วันละ 24 ชม...ซึ่งโดยปกติเราทำงาน 6-8 ชม. ก็ล้าแล้ว...แต่ระบบทำให้ 24 ชม...7 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีลาพัก ลาหยุด...555 แค่เราเซ็ตระบบเท่านั้นเอง...แต่ระบบที่ว่ามีอะไรบ้างล่ะ...งั้นเรามาดูกัน

ระบบ ที่เราเซ็ตเองได้ในสไตล์ของเราก็คือบล็อกที่กำลังอ่านกันอยู่นี่แหละ...ซึ่งมองดูเหมือนมืออาชีพทางด้านคอมพิวเตอร์เลย...555...( แต่ความจริงแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย...)...แต่มันมีเคล็ดลับที่บอกตอนนี้ไม่ ได้...เอาเป็นว่านี่คือเครื่องมือที่ทำงานแทนเราได้ 100%

ส่วนระบบอื่นๆ..เช่น ระบบนำคนเข้าสู่องค์กร...ระบบการเรียนรู้อัจฉริยะ...ระบบการสอนงานด้วย VDO Traning แบบจับมือทำ(...นี่แหละที่ทำให้แยมทำบล็อกได้แบบนี้) ระบบการติดตามอัตโนมัติ ระบบประชุมเรียนรู้ออนไลน์ ระบบ การทำตลาดออนไลน์ทุกๆอย่างที่มี...( แยมไม่มีปัญญาสร้างเองหรอกนะ...และก็ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าระบบพวกนี้ รายเดือนหรือรายปีด้วย) แต่ใช้ระบบของ V Global Group สำหรับคนที่เป็นทีมงาน...และระบบพวกนี้แหละที่ทำให้คนไม่เป็นก็เป็น จากคนไม่รู้ก็รู้ จากคนไม่คิดว่าจะทำได้ก็ทำได้ จากคนที่เป็นมือสมัครเล่นกลายเป็นมืออาชีพ จากคนธรรมดาเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นผลมาจากระบบของ V Global Group ทั้งหมด...

และ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่แยมนำเสนอไป..มันเป็นสิ่งที่ดี...วิธีการก็ใช่...รวมถึง ระบบก็เป็นสิ่งที่คุณต้องการ...ซึ่งคุณก็สามารถเริ่มทำเป็นอาชีพเสริมสร้าง รายได้...ก็อย่ารอช้านะ...เพราะทัศนคติที่ดีจะยังไม่ปักหลักอยู่กับใคร นานๆ....ถ้าคุณไม่อยากพลาดโอกาส...แยมก็ยินดีให้คำปรึกษา...

ถ้า อยากรู้ว่าอาชีพเสริมสร้างรายได้ หารายได้เสริมทำที่บ้านได้เงินจริงไหม…พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองกับระบบของ V Global Group  ลงทะเบียนเพื่อรับ Traning สอนอาชีพเสริมทำที่บ้านกับวิธีสร้างรายได้เสริมทำที่บ้าน ฟรี!!!

สนใจที่จะเข้ารับการอบรมเพิ่มเติม The Secret Business for Success

สามารถจองรหัสเข้าอบรมได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

กรุณาส่งชื่อ - หมายเลขโทรศัพท์ ได้ที่ yamyo2000@gmail.com

สอบถามเพิ่มเติม

ณหทัย ตีระแพทย์

086-4040167

yamyo2000@gmail.com

http://3440.aragonworld.net

www.aragonclubonline.com

www.vgc-club.com

http://takes-off.blogspot.com

http://mlmbusinessonlines.blogspot.com

5 เทคนิคการใช้ Social Network กับการตลาด-ธุรกิจออนไลน์ ( E-Commerce)

ตอนนี้ Social Network เป็นสิ่งที่คนหันมาสนใจกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าเราจะไปทางไหน ทุกคนต่างก็เล่น Social Network กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น HI5, Facebook, Twitter หรือ My Space ยิ่งตอนนี้กระแสการใช้ BB (blackberry)กำลังมาแรง คนยิ่งใช้ Social Network กันมากขึ้นไปอีก คุณว่าจริงไหม???

เกริ่นมาซะขนาดนี้แล้ว งั้นเรามาลองแอบดูกันดีกว่า ว่าในอนาคตของ Social Network มันจะเป็นยังไงบ้าง

1.หากธุรกิจจะนำ Social Network มาใช้ คนกลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่ Social Network สามารถเข้าถึงได้?

คำตอบ : กลุ่มหลักที่ใช้ Social Network ในปัจจุบัน คือ กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน อายุ 25 - 40 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังในการซื้อมากทีเดียว

2.วิธีการสื่อสารผ่าน Social Network รูปแบบไหนที่ธุรกิจควรนำมาใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย

คำตอบ : 1.ไม่ควรสื่อสารตรงๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพราะคนจะไม่ติดตาม และให้ความสนใจกับสิ่งที่เจ้าของสินค้าหรือ brand พูดมากเท่าไร

2.ควรจะกระตุ้นหรือมีกลยุทธ์ที่ให้คนที่มีอิทธิพล (Influencer)ติดตามสินค้าหรือ Brand ของคุณแทน ซึ่งจะทำให้คนเหล่านั้นสนใจ และพูดถึงสินค้าหรือ Brand ของคุณตลอด และจะมีการบอกต่อๆกันไป เรื่อยๆ

"86% ของคนทั่วไปมักไม่เชื่อสิ่งที่สินค้าหรือ Brand พูดถึงตัวเอง แต่ 78% ของคนทั่วไปมักเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดถึง Brand"

เมื่อก่อน Brand ต่างๆ มักจะเชิญ celeb ดาราไปงาน แต่เดี๋ยวนี้สินค้าไอที หรือสินค้าต่างๆ เริ่มเชิญคนที่มีคนรู้จักทางออนไลน์ (Online Celebrity) ไปร่วมงาน และให้สินค้าไปใช้เพื่อสร้างกระแส เพราะช่องทางออนไลน์มันไปได้เร็วกว่า Celeb ธรรมดา และเข้าถึงกลุ่มคนกลุ่มใหม่ๆได้ตลอดเวลา

3.จะขายสินค้าผ่านทาง Social Network ได้ไหม?

คำตอบ : การขายหรือสื่อสารข้อมูลสินค้าตรงๆ ผ่านทาง social network ดูจะเป็นทางที่เพิ่มยอดขายได้น้อยกว่าและคนทั่วไปก็มักจะไม่ชอบวิธีแบบนี้ด้วย แต่สิ่งที่คนจะให้ความสนใจมากกว่าก็คือ การขายแบบอ้อม หรือ in-direct ที่จะให้คนอื่นพูดถึงและบอกต่อกันไปผ่าน social network

Social Network จะใช้ในการสื่อสาร ส่งข้อความมากกว่าที่จะใช้ในการสร้างยอดขายหรือปิดการขาย

ดังนั้น นักการตลาดที่ดี "ต้องเข้าใจ" และสามารถ "วางกลยุทธ์" ในการผสมผสาน Social Network เข้ากับ e-Commerce ให้ได้อย่างกลมกลืนที่สุด เมื่อนั้น Social Network จะสามารถสร้างยอดขายให้กับสินค้าหรือ brand ได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองดู

4.หากคู่แข่งใช้ Social Network ด้วยแล้ว เราจะทำยังไงดี?

คำตอบ : 1.ให้ดู positioning หรือจุดยืนทางการตลาดว่า ของเรากับของคู่แข่งมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วเราจะสร้างความเหนือกว่าได้ที่ตรงจุดไหนบ้าง

2.พยายามสร้าง network หรือเครือข่ายให้กว้างกว่า และเข้าให้ถึง "กลุ่มเป้าหมาย" มากที่สุด

3.สร้าง Creativity และการสร้างสรรค์ ให้เกิดความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง หรือการนำเทคโนโลยี หรือ innovation เข้ามาใช้

5.ทำอย่างไรให้คนเข้ามาใน Network ของเรา หรือ Follow เราเพิ่มมากขึ้น? และปัจจัยแห่งความความสำเร็จ (Key Success Factors) ของการทำการตลาดบน Social Network คืออะไร

คำตอบ : 1. จุดยืนหรือ positioning ของคุณว่าคุณคือ "อะไร" และอะไรคือ "จุดเด่นของคุณ" และทำไมเขาต้องมาตามคุณในโลกของ Social Network และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "เขาตามคุณไปได้ เขาจะได้อะไรจากคุณบ้าง?"

2. ถามตัวเองก่อนว่า "คุณมีอะไรให้เขาน่าตามหรือดึงให้เขาเข้ามาร่วมใน network ของคุณบ้าง?"

3. ขนาดของ Network หากเรามีคนอยู่ในเครือข่ายหรือ Network เรามาก ก็จะได้เปรียบและข้อความที่ส่งออกไป ก็จะมี impact และมีความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น

4. Trust หรือความน่าเชื่อถือว่าคุณสามารถสร้างสิ่งนี้ได้ดีระดับไหน

5.ข้อความ (Content) ที่คุณจะส่งออกไปต้องมีคุณภาพ และเป็นสิ่งที่เขาอยากฟัง ไม่ใช่พูดแต่สิ่งที่เราอยากจะพูด และสิ่งที่เขาได้รับต้องเป็นสิ่งคนรับต้อง "ได้"

6. ความถี่ในการสื่อสาร ควรจะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

7. การสร้างเทคนิคหรือกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถเปลี่ยนจาก "ผู้ชม” (Visitor) กลายเป็น "ผู้ซื้อ” (Customer) ได้ หรือการสร้าง conversion rate ให้เกิดขึ้น


8. เทคนิคการโปรโมทให้คนมาตามเราหรือเข้ามาใน network เรามากที่สุดคือ การโปรโมทผ่านทาง Social Network ออกไปให้คนใน network ที่ยังไม่ตามเรา เข้ามาหาเรามากขึ้น แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

ทั้งหมดนี้ คือ 5 เทคนิคการนำ Social Network มาใช้กับการตลาดและธุรกิจ แยมหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆคนนะคะ

สนใจที่จะเข้ารับการอบรมเพิ่มเติม The Secret Business for Success

สามารถจองรหัสเข้าอบรมได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

กรุณาส่งชื่อ - หมายเลขโทรศัพท์ ได้ที่ yamyo2000@gmail.com

สอบถามเพิ่มเติม

ณหทัย ตีระแพทย์

086-4040167

yamyo2000@gmail.com

http://3440.aragonworld.net

www.aragonclubonline.com


http://takes-off.blogspot.com

http://mlmbusinessonlines.blogspot.com