วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

7 เทคนิคใช้โซเชียลมีเดีย ( Social Media)-Facebook, Twitter


ในตอนนี้ หลายๆคนคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดีย( Social Media) มีอิทธิพลต่อเราอย่างมาก เพราะเรานิยมที่จะติดต่อกันทางโซเชียลมีเดีย( Social Media) แทนการพูดคุยกัน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน คุณก็จะเห็นผู้คนใช้มือถือ หรือแทบเลตเพื่อการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter แล้วคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่ทำแบบนั้นเช่นกัน คุณว่าจริงไหม???
วันนี้แยมเลยเอาเทคนิคการใช้โซเชียลมีเดีย( Social Media) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากกัน  เราลองไปดูกันเลยดีกว่านะคะ

1. ใช้โซเชียลมีเดีย( Social Media) ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตน โซเชียลมีเดีย( Social Media) ที่มีกันอยู่หลากหลายนั้น ต่างมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น เฟซบุ๊ค (Facebook) สามารถสื่อสารได้ทั้งตัวอักษรและรูปภาพ หรือบริการบล็อกสั้นอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) นั้น ใส่ได้เฉพาะตัวอักษร เราจึงใช้วิธีนี้ในการสร้างเครือข่ายสังคม กับคนที่เรารู้จักและไม่รู้จัก ขอเพียงแค่มีความชอบ หรือ ความคิดเห็นที่ตรงกันก็พอ

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สร้างรายได้เสริมธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ สำเร็จได้จริงหรือ??

สร้างรายได้เสริม ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ สำเร็จได้จริงหรือ?? แล้วทำไม 97 %ยังล้มเหลวอยู่อีกล่ะ สุดยอดระบบ แผนการตลาดทำง่าย บริษัทมั่นคง...และองค์ประกอบอื่นๆอีก...สำเร็จได้จริงหรือ??

 ในโลกธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ ที่หลายๆค่าย มีเว็บธุรกิจประชาสัมพันธ์ให้ มีลิงค์สำหรับโปรโมทธุรกิจ หรือมีเครื่องมือและระบบให้ถ้าสมัครกับเรา...จริงๆแล้วสิ่งที่ได้กล่าวมามันเป็นเพียงองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ทำให้งานของคุณง่ายขึ้นมาอีกนิดแค่นั้นเอง...

แยมเห็นผู้คนจำนวนมากที่แห่ไปทำธุรกิจกับค่ายที่มีระบบต่างๆเหล่านี้ให้...แต่คุณรู้ไหมว่า 97%ของคนที่เข้ามาทำ ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ก็ยังคงล้มเหลวอยู่...เป็นเพราะอะไรล่ะ...ในเมื่อเรามีทั้งเว็บที่เขาให้มา...มีทั้งระบบและเครื่องมือต่างๆให้เพรียบพร้อมเลย....

 คิดดูนะคะ...ว่าอะไรก็ตามที่เหมือนกันไปหมด เช่น การโฆษณาธุรกิจของคุณที่เหมือนกับคนอื่นๆ การโฆษณาบริษัทของคุณที่คนอื่นๆก็ทำกัน...การโฆษณาแผนการตลาดหรืออะไรก็ตามที่คนอื่นๆก็ทำเหมือนๆคุณและคนอื่นๆก็มีเว็บ มีระบบ มีลิงค์ เหมือนๆกับที่คุณมี...แล้วอย่างนี้คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะเข้าร่วมธุรกิจกับคุณ...อย่างที่ได้บอกไปว่าจริงๆแล้วระบบหรือเว็บหรือว่าเครื่องมือมันเป็นเพียงองค์ประกอบที่ทำให้งานของคุณง่ายขึ้นมาอีกนิดเท่านั้นเอง...

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุณคิดจะสร้างธุรกิจของคุณด้วยการตลาดแบบไหน?

HEIGHT RISK HIGHT RETURN หรือว่า


HIEIGHT UNDERSTANDING HEIGHT RETURN

แล้วเราจะเริ่มทำหลักการตลาดนี้ได้อย่างไร ?

สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เราต้องคิดเป็นอันดับต้นๆหรือเปล่า ที่ใช้ในการวางแผน คำตอบก็คือ...ไม่ใช่เลย คุณคิดผิดถ้ามองว่าสินค้ามาก่อน เพราะนั่นมันเป็นเพียงผลลัพธ์ที่แสดงถึงความมั่นใจของผู้ใช้ ถ้าสินค้ามันมีผลดีกว่าระบบการตลาด ทำไมไม่เห็นคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจวิ่งไปขายมันหละ อย่างเช่นรถเบนซ์ แทบจะไม่เคยเห็นเขาโฆษณาเลย ถ้าคุณคิดว่ามันขายตัวมันเองได้ด้วยความยอดเยี่ยมของมัน จงลืมมันไปได้เลย..

สิ่งแรกที่คุณจะต้องเรียนรู้ในธุรกิจของคุณก็คือ “ผู้มุ่งหวัง” ที่คุณจะต้องทำการตลาดต่างหาก

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข้อแตกต่างระหว่างอาชีพ ที่หลายๆคนนึกไม่ถึง

พอดีได้ไปเจอบทความที่น่าสนใจมากๆ เลยนำมาฝากกัน เป็นการ เปรียบเทียบและอธิบายถึง การเป็น ลูกจ้างกับเจ้าของกิจการ ว่ามีข้อดีข้อเสีย อย่างไร


อาชีพลูกจ้างกับอาชีพเจ้าของ กิจการนี้มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลูกจ้างทำงานให้กับนายจ้างหรือเจ้าของกิจการนั่นเอง ตามความต้องการของเขา แลกกับเงินที่ได้โดยสร้างความพอใจให้นายจ้าง แต่อาชีพลูกจ้างก็ถือว่ามีเกียรติเช่นกัน โดยเฉพาะลูกจ้างที่เป็นผู้จัดการมีออาชีพ จะภาคภูมิใจที่ทำให้ธุรกิจเจริญเติบโต แม้ว่าจะเป็นธุรกิจของคนอื่นก็ตาม แต่เขาเจริญเติบโตได้เพราะฝีมือของเรา มีเจ้าของกิจการเป็นจำนวนมากที่ก่อนทำกิจการของตนเองได้เคยเป็นลูกจ้างมา ก่อน

การเป็นลูกจ้างทำให้เรียนรู้การทำงานมีประสบการณ์เพียงพอที่จะ แก้ไขปัญหาในการทำธุรกิจของตนเอง มีโอกาสปฎิบัติจริง ส่วนคนที่เป็นนักศึกษาเรียนจบมาใหม่ทำธุรกิจของตนเอง เทียบกับคนที่เคยเป็นลูกจ้างมาก่อนแล้วมาทำธุรกิจคนที่เป็นลูกจ้างมาก่อน ย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะได้เพิ่มพูนความรู้ให้เติบโดมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบอาชีพลูกจ้าง กับอาชีพเจ้าของธุรกิจแล้ว ย่อมมีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งคู่ ดังจะกล่าวต่อไป

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุณเคยรู้จักธุรกิจที่พอเอ่ยชื่อมา หลายคนมักจะร้องยี้ แต่ทำไม? มหาเศรษฐีทั้ง 2 คนนี้ ที่มีความมั่งคั่งเป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ถึงได้แนะนำให้คนทั่วโลกรู้จัก และควรจะทำมันก่อนที่จะทำธุรกิจของตัวเองเสียอีก.....................

MLM…หรือธุรกิจเครือข่าย

เราลองมาแกะรอยหาความจริงว่า...ทำไมคนถึงร้อง...ยี้ กับธุรกิจนี้กันมากมายนัก คุณก็อาจจะเป็นอีกคนก็ได้ที่คิดแบบนั้น มันไม่ผิดหรอกที่คุณจะคิดเช่นนั้น เพราะเรื่องจริงที่ไม่มีใครยอมเปิดเผย กับการสร้างธุรกิจแบบผิดๆ เพียงเพราะ หวังแค่ความสำเร็จของตนเองของคนเหล่านั้น แล้วเขาก็ไม่สนใจถึงความเจ็บปวดของคน ที่เขาหรอกให้เข้าไปทำธุรกิจ MLM

ความจริงที่ปรากฏในธุรกิจเครือข่าย ที่ไม่มีใคร....ยอมเปิดเผย


ในความเป็นจริงแล้วคนที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ ส่วนมากมักจะมาจากการถูกชักชวนจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ล้วนถูกชักชวนมาด้วยภาพแห่งการมีรายได้หลักแสนหรือหลักล้านต่อเดือน เพียงแต่คุณทำตามผู้นำ เลียนแบบทำซ้ำคุณก็จะสำเร็จได้ ทุกคนเข้ามาเพราะถูกเร่ขายความฝัน ที่จะมีรายได้เหมือนอย่างคนบนเวทีที่ขึ้นพูดให้เราฟัง จะมีอิสรภาพทางการเงินบ้าง ไม่ต้องทำงานประจำอีกต่อไป ดูเหมือนมันช่างง่ายดายเสียจริงๆ.... แค่เลียนแบบทำซ้ำแค่นั้นหรือ แล้วทำไมยังมีคนเจ็บปวดกับธุรกิจนี้อยู่อีกตั้ง 95-97 เปอร์เซ็นต์เล่า แยมเชื่อว่า......คนที่ล้มเหลวเหล่านี้ เขาเองไม่ได้ตั้งใจว่าเขาจะเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง นั่นเป็นเพราะความฝันที่พวกคุณขายให้ต่างหาก จะมีบ้าน จะมีรถ จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ได้ท่องเที่ยว ไม่เคยมีใครบอกเขาเลยว่า..... เขาต้องทำอย่างไรกับธุรกิจนี้ เพียงแค่เลียนแบบทำซ้ำ ชวนคนเข้าฟังคำบรรยาย เท่านั้นจริงๆหรือ ?

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คุณคิดอย่างไร...คุณก็จะเป็นเช่นนั้น...You are what you think!


รากเหง้าของความล้มเหลวคือ....ความกลัว

แล้วไอ้เจ้าความกลัวที่ว่า คุณมีมากน้อยขนาดไหน? ซึ่งเพราะความกลัว มนุษย์เราจึงมักสร้างข้อแก้ตัว เพื่อหาเหตุผลในการสนับสนุนการกระทำหรือไม่กระทำ........

เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลว

ผู้ที่มีจิตใจวิตกอยู่แต่เรื่องความกลัวต่างๆ ไม่เพียงแต่มันจะทำลายโอกาสของคุณ แต่มันยังทำลายจิตใจของคนทุกคนที่เข้ามาสร้างความสัมพันธ์ด้วย และพลอยทำลายโอกาสของคนเหล่านั้นไปด้วย นอกจากความกลัวที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีสิ่งชั่วร้ายอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ต้องได้รับความทุกข์ ซึ่งสิ่งชั่วร้ายที่ว่านั้นมันก็คือ............ “ความอ่อนแอที่ทำให้ท้อถอย”

บุคคลที่ประสบความสำเร็จนั้น มีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่เหมือนๆกันก็คือ เขาเหล่านั้นต่างก็รู้ถึงเหตุผลทุกประการที่สร้างความล้มเหลวให้กับชีวิตของตนเอง และคนที่ล้มเหลวมักมีคำแก้ตัวอย่างพรักพร้อมเพื่ออธิบายว่า..... ทำไมตนจึงไม่ประสบผลสำเร็จ

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10อาชีพลูกจ้างที่ทำเงินสูงสุด

วันนี้เรามาดูกันว่า 10 อาชีพลูกจ้างที่ทำเงินตลอดอายุการทำงานสูงสุดมีอาชีพอะไรกันบ้าง

ข้อมูลจาก payscale.com โดยสำรวจจากลูกจ้างในสหรัฐอเมริกา

1. วิศวกรปิโตรเลียม

รายได้รวม 45 ปี: $6,290,000

2. นายหน้าเหมืองแร่

รายได้รวม 45 ปี: $5,380,000

3. วิศวกรซอฟท์แวร์

รายได้รวม 45 ปี: $4,360,000

4. วิศวกรไฟฟ้า

รายได้รวม 45 ปี: $4,170,000

5. วิศวกรเครื่องกล

รายได้รวม 45 ปี: $3,900,000

เคลียร์ความคิดชีวิตกับงาน

คนเราเกิดมา ความสำเร็จของชีวิตเกิดจากความคิดของเราเองทั้งนั้น

• คนที่เป็นแพทย์ คิดแบบแพทย์

• คนเป็นตำรวจ ก็คิดแบบตำรวจ

• เป็นพยาบาล คิดแบบพยาบาล

แยมเองเป็นพนักงานบริษัท ก็คิดแบบพนักงานทั่วๆไป จินตนาการคือสิ่งที่สนองความต้องการของมนุษย์

ชีวิตเรามีผลพวงมาจากความคิดในอดีตแล้วค่อยพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้

เรามาดูคุณสมบัติคนที่รวย หรือเป็นเศรษฐี ว่าเขามีคุณสมบัติอย่างไร

1. คนจะรวยไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาสูงๆ หรือจบ ดร.มาก่อน ก็รวยได้

2. คนจะรวยทุกคน ไม่จำเป็นต้อง มีเงินแสน เงินล้านมาก่อนก็รวยได้ เช่น ตัวอย่าง ตระกูลล่ำซำ ตระกูลโสภณพาณิชย์ คนเหล่านี้ มีเสื่อผืนหมอนใบ กันทั้งนั้น ก็สามารถเป็นเศรษฐีได้

คนจะรวยไม่จำเป็นมีเงินเป็นล้าน ถ้าคิดไม่เป็นมีสิทธิหมด ใช่ไหม?

บางคนเคยล้มเหลว แต่ความคิดไม่ล้มเหลวก็รวยได้ จริงไหม?

เราเคยเห็นสามล้อถูกหวยไม่คะ มีเงินเป็นล้านเดี๋ยวก็หมด เพราะความคิดการบริหารเงินไม่มี ไม่เคยมีเงินมาก่อน

วันนี้ชีวิตเรามันถูกลิขิตด้วยความคิดทั้งหมดเลย เขาถึงบอก ” ถ้าเปลี่ยนความคิดชีวิตจะเปลี่ยน “

คนจะรวยต้องคิดแบบคนรวย คนจนคิดแบบคนจน

ฉะนั้นความจนความรวย เริ่มที่ชีวิตความคิดของเราเท่านั้น

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ล้มเหลวคิดต่างกันอย่างไร....


แยมเชื่อว่าคุณมีความสามารถ เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันถูกเก็บซ่อนเอาไว้ที่ไหน ในตัวคุณ หรือคุณอาจจะโปรแกรมข้อมูลอะไรบางอย่างที่ผิดพลาดไปในอดีต เราลองมาดูแนวคิดที่ เอเคอร์ ที่ได้เก็บรวบรวมจากการสัมภาษณ์ คนจำนวน ไม่ต่ำกว่า 250,000 คน ดูซิว่า......แนวคิดของเราจะเป็นอย่างไร?

หลักแห่งความมั่งคั่ง

คุณหละคิดอย่างไร?

“การได้รับเงินเดือนประจำ นั้นไม่มีอะไรผิดหรอก มันเพียงแค่ลดประสิทธิภาพในการหาเงินให้ได้ตามศักยภาพสูงสุดของตัวคุณเองนั่นแหละปัญหา และมักจะเป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่ด้วย

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คุณอยากทำธุรกิจของคุณแบบไหน?.......

“ยิ่งความเสี่ยงสูงผลตอบแทนยิ่งสูง หรือว่า... ยิ่งเข้าใจในธุรกิจของคุณยิ่งสูง ผลตอบแทนก็สูงตาม คำพูดในประโยคนี้ คุณเลือกที่จะทำแบบไหน?”


แยมคงจะไม่สามารถคาดเดาในคำตอบของคุณได้ แต่ถ้าคุณจะถามในแนวคิดของแยม แยมสามารถตอบคุณได้อย่างเต็มร้อยเลยว่า แยมลือกที่จะทำธุรกิจแบบ HIEIGHT UNDERSTANDING HEIGHT RETURN

ทำไมหรือ ก็ทั้งๆที่ Business Scholl ทั่วๆไป มักจะสอนอยู่เสมอว่า HEIGHT RISK HIGHT RETURN ยิ่งเสี่ยงสูงผลตอบแทนก็ยิ่งสูง แต่สำหรับแยมแล้วความเสี่ยงนั่นมันหมายถึง “ความไม่รู้” ถ้าเราไม่รู้ก็เหมือนกับเรากำลังเล่นการพนัน ไม่ใช่ธุรกิจที่แท้จริง มันก็เหมือนกับนักพนันนั่นเอง มักจะมีคำกล่าวอยู่เสมอในแวดวงนักธุรกิจว่า “ไม่เป็นหนี้ไม่รวย” แยมผ่านจุดนี้มานับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายมันก็เป็นหนี้จริงๆ ไม่เห็นว่ามันจะร่ำรวยตรงไหน เพื่อนๆหลายคนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ปี 40 ที่กลายเป็นคนล้มละลายมานักต่อนักแล้ว เพราะความไม่รู้ กับคำว่า HIEIGHT RISK HEIGHT RETURN ที่ถูกสอนมาแบบเก่าๆ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บ่อยครั้งที่เรามักจะมีคำถาม ถามตัวเองอยู่สม่ำเสมอว่า.....................................เราพอใจกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ หรือกล้าๆกลัวๆ กับการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนเราก็ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว ประหยัดอดออมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งฟุ่มเฟือย พอมีเงินก็เอาไปลงทุนให้มันออกดอกออกผล เรียกว่า พยายามทำทุกอย่างตามสูตรของการเป็นเศรษฐี ปฏิบัติทุกอย่างตามคัมภีร์ แห่งความมั่งคั่ง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้เป็นเศรษฐีอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นมูลฐานที่แท้จริงในเรื่องนี้ ที่จะพาคุณ...... แกะรอยไปดูว่า บรรดาเศรษฐีตัวจริงทั้งหลาย หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จ เขาทำ-เขาคิด กันอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็น บิล เกตส์ แห่งไมโครซอฟท์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งเบียร์ช้าง คุณเฉลียว อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดง หรือไม่ว่าจะ คุณธนินท์ เจียรวรนนท์ เจ้าของ CP แม้กระทั่งมหาบุรุษเอกของโลก เขามีแนวคิด และมุมมองในเรื่องนี้อย่างไร

เหตุที่ทำให้คน 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องประสบกับความล้มเหลวในชีวิต

วันนี้แยมมีบทความดีๆ ฝากไว้ให้คิดว่าเหตุแห่งความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากความกลัวแล้ว มันยังมีอะไรอีกบ้างที่ทำให้คนส่วนใหญ่ถึงได้ล้มเหลวในชีวิต.................

สถาบัน คาร์เนกี้ อินสติติวท์ ออฟ เทคโนโลยี ได้วิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับมาจากบุคคลต่างๆ มากกว่า 15,000 คน และได้พบข้อสรุปว่า...15 เปอร์เซ็นต์ ของความสำเร็จที่เขาเหล่านั้นได้รับมา ขึ้นอยู่กับการที่ได้รับการอบรม ให้รู้จักกับเทคนิคต่างๆ อีก 85 เปอร์เซ็นต์ ของความสำเร็จที่ได้รับมา ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านบุคลิกภาพ และกับความสามารถ ในการที่จะปรับตนเองให้กับบุคคลอื่น

เมื่อสถาบัน โวเคชั่น ไกดั๊นซ์ แห่ง มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ได้ทำการวิเคราะห์จาก ผู้ชายและผู้หญิง จำนวนนับพันคน ที่ถูกไล่ออกจากงาน เขาได้พบว่า การที่คนเหล่านั้น ต้องสูญเสียงานที่ตนทำอยู่ไป สาเหตุสำคัญประการหนึ่ง เนื่องมาจากการที่ ไม่มีความสามารถที่จะทำในหน้าที่นั้นๆ ได้ และกับอีกสาเหตุ ก็เนื่องมาจากความล้มเหลว เพราะไม่ สามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นได้

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความฝันของเรา.....อยู่ที่ไหน??? ใครรู้บ้าง???

คนหลายๆคน เคยฝันว่า.... อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

อยากเริ่มต้นในสิ่งที่ตนรัก ให้กลายมาเป็นรายได้

อยากปลดพันธนาการ.....ในกรอบของชีวิตมนุษย์เงินเดือน

อยากมีอิสรภาพ ทางด้านการเงินเหมือนใครหลายๆคน

อยากมีเวลาที่จะได้ทำอะไรที่อยากทำในชีวิต ความอยากทั้งหมด

ที่พอจะนึกขึ้นได้ ในมุมของมนุษย์เงินเดือน ของใครหลายต่อหลายคน

รวมถึงคำตอบที่ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากเพื่อนๆ และคนรอบข้าง

หากมีใครสักคนหนึ่งถามขึ้นว่า.. คุณอยากจะทำอะไรในอนาคต

และการเริ่มต้นของความฝันทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้

จะเริ่มต้นได้ที่ไหน....... ถ้าไม่ใช่ตัวคุณ